ในตอนที่ 1 ของเรื่องของคุณชาย พุฒิ ภัทร ได้เล่าถึงความเป็นตัวของเขาในตอนเรียนมหาลัย และหลังจากเจ็บปวดนั้นทำให้เขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก นิ้วมือล้มเหลวทำให้เขาไม่สามารถเล่นกีตาร์ได้ต่อเนื่องเช่นเดิม แต่คุณชายไม่มีความหมายว่าจะทำให้เขาตกใจหายใจถอน ถึงแม้ว่าเขาจะผ่านการเจ็บปวดนี้อย่างยากลำบากแต่เขาก็ยังไม่ยอมที่จะยอมแพ้กับชีวิตเลย และทำให้เขาเจอตัวเองอีกครั้ง
ตอนที่ 2 และสิ่งที่เหลือเหนืออีกชนิดของคุณชายพุฒิ ภัทรในช่วงเวลาหลังจากเขาเจ็บปวดนั้นเป็นการผลักดันตัวเองอย่างที่ไม่คาดคิด คุณชายพุฒิเริ่มต้นเบี่ยงเบนไปจากการเล่นกีต้าร์ซึ่งก่อให้เกิดการปรับตัวทางด้านอารมณ์และอารมณ์เป็นลบ แต่เขาก็ไม่ยอมที่จะยอมแพ้ต่อชีวิตและถือว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ เขาแย่งกินอาหารได้ด้วยการใช้มือซ้ายของเขาแทน จนกระทั่งเขาได้กลับมาเล่นกีต้าร์อีกครั้ง แต่คุณชายพุฒิคิดว่าเขายังต้องการฝึกฝนเพิ่มเติมเพื่อจะสามารถเล่นกีตาร์ได้อย่างดีกว่า เขาเริ่มต้นเพิ่มเติมเวลาเล่นกีตาร์โดย การที่เขาแบ่งตัวเขาออกเป็นสองส่วนและเรียนรู้การเล่นในแต่ละส่วนอย่างมากมาย
การลุกขึ้นมาใหม่ให้ผ่านไปทั้ง 2 ปี และคุณชายพุฒิเห็นถึงความคิดของเขาว่าเขาต้องการไปทำงานหนักๆในต่างประเทศเพื่อทำตามความฝันของเขา แต่ก่อนที่จะได้ลุกขึ้นมาทำงานเพื่อจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและการเจาะลึก คุณชายพุฒิต้องอย่างยิ่งที่จะเตรียมตัวให้พร้อมและเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่งคั่ง ด้วยเหตุนี้ เขาได้รับการอบรมและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความรู้และทักษะและหลังจากที่เขาจบการอบรม เขาได้เริ่มต้นเข้าร่วมกิจกรรมการทำงาน การที่เขาได้เริ่มต้นทำงานในอุตสาหกรรมนี้ทำให้เขาเจอปัญหาใหญ่ต่างๆ
คุณชายพุฒิกับปัญหาต่างๆ
การที่คุณชายพุฒิได้เริ่มต้นอย่างดีและกำลังจะพุ่งไปได้ไกล แต่เขาเริ่มพบว่ามีปัญหาทางด้านการทำงาน ปัญหาแรกคือความยากลำบากในการฝึกงานเพื่อเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ และต้องปรับตัวให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมสำหรับงานเหล่านี้ มีความรู้สึกว่ามีการรับข้าวของการลองผิดลองถูกกี่ครั้งก็ไม่สำเร็จ แต่เขาได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงานและเรียนรู้วิธีที่จะเข้าถึงการปรับตัวให้เหมาะสมกับงานที่อยู่ภายในผลิตภัณฑ์นั้นๆ และเริ่มพัฒนาความรู้และทักษะใหม่ๆ เพื่อการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในอนาคต
ปัญหาต่อมาของคุณชายพุฒิคือการจัดการกับความแตกต่างทางวัฒนธรรม ทำให้เขาประสบความลำบากในการทำงานและการสื่อสารกับผู้อื่นกลายเป็นเรื่องยากเย็น เขารู้สึกว่าเขายังไม่ชำนาญภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาหลักโดยที่เขาต้องทำงานในอุตสาหกรรมต่างประเทศ แต่เขาก็ได้พยายามเรียนรู้ภาษาอังกฤษโดยการเรียนจากห้องเรียนและกีฬาวิ่ง นอกจากนี้ เขาได้รับคำแนะนำจากเพื่อนร่วมงานว่าการที่จะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพอย่างที่ต้องการเขาจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประสบการณ์ของผู้อื่นชนิดต่างๆ เพื่อเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐาน
แต่ละปัญหาใหญ่ต่างๆที่เขาได้พบจะไม่ลงทุนเพื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่คุณชายพุฒิยังคงมองเห็นความคิดว่าความล้มเหลวที่เขาประสบในอดีตถูกใช้เป็นเป้าหมายที่จะเข้าถึงความสำเร็จในอนาคต ปัญหาที่เขาได้พบในแต่ละครั้งทำให้เขาเรียนรู้การเผชิญหน้ากับความท้าทายและปัญหาใหญ่ต่างๆ และเขาต้องการที่จะต้องใช้ปัญหาที่ช่วยให้เขาสามารถก้าวหน้าได้แทนที่จะมองว่าเป็นข้อขัดขวางที่ไม่มีวิธีแก้ไขใดๆ และความก้าวหน้าที่สุดของเขาเป็นเหมือนการรื่นเริงของการเผชิญหน้ากับความท้าทาย ด้วยการที่เขาได้โตขึ้นไปเป็นบุคคลที่มีค่ามากขึ้น เขาได้ยืนหนึ่งขั้นข้างคนอื่นๆ และหันมาช่วยเหลือเพื่อต่อสู้กับแรงกดดันที่เขาต้องเผชิญหน้าจากสิ่งต่างๆ ในชีวิต
FAQs
Q: คุณชายพุฒิเรียนอะไรในวิชาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่มาช่วยให้เขาเตรียมตัวไปทำงาน?
A: เขาได้เรียนรู้การใช้ซอฟต์แวร์และการเข้าถึงสิ่งมีชีวิตอย่างหลากหลาย เช่นการเข้าหน้าเว็บและการควบคุมคลื่นออกซิเจน
Q: คุณชายพุฒิเรียนรู้วิธีใดเพื่อจัดการกับปัญหาในการทำงาน?
A: เขาได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงานและได้เรียนรู้การปรับตัวให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมสำหรับงานที่อยู่ภายในผลิตภัณฑ์นั้นๆ
Q: คุณชายพุฒิฝึกฝนภาษาอังกฤษอย่างไร?
A: เขาได้เรียนจากห้องเรียนและกีฬาวิ่ง
Q: การทำงานในอุตสาหกรรมต่างประเทศมีปัญหาอะไรที่เขาเจอ?
A: การจัดการกับความแตกต่างทางวัฒนธรรมทำให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐานด้วยความจำกัดที่มีอยู่
Q: คุณชายพุฒิมีวิธีการจัดการกับปัญหาใหญ่ต่างๆอย่างไร?
A: เขาเรียนรู้การเผชิญหน้ากับความท้าทายและปัญหาใหญ่ต่างๆ และใช้ปัญหาเหล่านี้เป็นเป้าหมายที่จะสามารถก้าวหน้าได้แทนที่จะมองว่าเป็นข้อขัดขวางที่ไม่มีวิธีแก้ไขใดๆ
