การ หัก เงิน สะสม และ นายจ้าง จะ สมทบ เงิน ให้ กับ เรา เป็น วิธี การ ให้การ ตอบแทนที่ดี
การ หัก เงิน สะสม และ การสมทบเงินคือวิธีการให้การตอบแทนที่ดี เพื่อเป็นการรู้สึกว่าตัวเองได้รับการติดตั้งค่าแล้ว และได้รับการนับถือในหน้าที่ของตนในการทำงาน จึงทำให้เรามีเเรงจูงใจในการทำงาน และให้ความมั่นคงในอนาคต
การหักเงินสะสม คือการหักเงินจากเงินเดือนของลูกจ้างมาเก็บไว้ในบัญชีสะสมเป็นเงินก้อน เพื่อใช้เป็นเงินช่วยเหลือลูกจ้างในกรณีฉุกเฉิน หรือใช้เป็นเงินออมทรัพย์ เพื่อเตรียมเต็มตัวเพื่ออนาคตที่ดีกว่า การหักเงินสะสมนี้เป็นสิ่งที่สร้างสรรค์และได้รับการต้อนรับกันอย่างแพร่หลายในหลายบริษัท โดยทั่วไป ระบบการหักเงินสะสมจะถูกกำหนดโดยกฎหมายและอยู่ภายใต้สัญญาการทำงาน
การสมทบเงินก็คือการนายจ้างให้เงินเพิ่มเติมกับลูกจ้าง เพื่อเป็นการเตือนให้ลูกจ้างรู้สึกว่าตัวเองได้รับการนับถือในแบบที่ดี และเป็นเเรงจูงใจให้ทำงานให้ดียิ่งขึ้น กำหนดการสมทบเงินทั่วไปมักจะพร้อมกับการวิเคราะห์ประสิทธิภาพทำงานของทีมงาน และการให้บริการสัมมนาผู้บริหาร ซึ่งส่งผลต่อส่วนใหญ่ของทีมงานในที่สุด
การหักเงินสะสมมีข้อดีอย่างมากสำหรับลูกจ้าง โดยอันดับแรกคือจะได้รับเงินตอบแทนโดยที่ตัวเองไม่จำเป็นต้องหันมองมาที่เงินเดือนปัจจุบัน โดยที่ยังไม่ได้ส่งผลต่อสิ่งอื่นใดๆ เวลาเพิ่มค่าตอบแทนจะเป็นการรวมเป็นเงินที่ซักประเภทใด เช่น ประกันสุขภาพ ซึ่งรวมกันจะช่วยเพิ่มโอกาสการมีชีวิตที่ดีกว่าในอนาคต
การหักเงินสะสมยังเป็นเครื่องมือที่ดีในการสร้างความตั้งใจและทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองได้รับการพิจารณาถึงผลงานที่ดีที่สุด การที่มีการหักเงินสะสมอยู่สม่ำเสมอก็จะผลของลูกจ้างก็คือมีแรงจูงใจในการทำงานที่ดี และทำให้สามารถดำเนินการทำงานได้สูงสุดในทุกสถานการณ์อย่างมืออาชีพ
การสมทบเงินก็ยังเป็นผลดีที่จะได้รับในการทำงาน การได้รับเงินตอบแทนเพิ่มเติมสามารถตัดสินใจในการรักษาตัวเองและคณะทำงานห่างไกลจากจุดหลักหรือมุ่งหมาย
ข้อเสียของการหักเงินสะสมเดียวจะเกิดขึ้นเมื่อบริษัททำงานไม่ดี มากขึ้น หรือเมื่อลูกจ้างที่ได้รับการหักเงินสะสมอยู่สูงมีปัญหา การได้รับเงินตอบแทนเพิ่มเติมอาจมีผลต่อเงินเดือนที่ไม่ได้รับมีคุณภาพ อย่างไรก็ตาม มั่นใจได้ว่าการทำงานที่ดีต่อไปเป็นเป้าหมายของบริษัท และที่สำคัญคือการหลืกหลังลูกจ้างรับรองเรื่องเงินดังกล่าว
การสมทบเงินก็มีข้อเสีย/ความเสี่ยง เป็นการ้อมน้อยช่วงเวลา หรือเป็นเงินพักๆ เมื่อบริษัทไม่มีสภาพการณ์ที่ดี ผลอันประมาทอาจแสดงให้เห็นเป็นที่เร็วด้วยจริงๆ
ในทางกลับกันคุณควรตรวจสอบถึงสภาพการณ์ของบริษัทเเละปิดตาให้เห็นถึงรายละเอียดของการหักเงินสะสมจะไม่มีผลต่อเงินเดือนอีกต่อไปเพราะคุณได้ไปยังค่าตอบแทนสำหรับปีที่มีผลอยู่ก่อน
FAQs
1.อัตราการหักเงินสะสมมากเท่าใดจะเหมาะสม?
อัตราการหักเงินสะสมมากขึ้นอยู่กับการทำงานของบริษัทและคุณสมบัติของลูกจ้าง ทำให้บริษัทมีแนวโน้มที่จะได้รับผลตอบแทนเพิ่มเติมที่ดี(A 1-2% แรกๆการทำงาน ซึ่งสามารถเพิ่มขึ้นได้ในภายหลัง)
2.ความเสี่ยงของการสมทบเงินมีอะไรบ้าง?
ทุกบริษัทมีการออกตัวกระจายข้อเสีย แต่เป็นเรื่องแยกต่างหากในทุกกรณีดังนั้นจึงไม่มีคำตอบที่แน่ชัดสำหรับคำถามนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่าการให้ดังกับร้อยละการระบายมันจะเป็นไปได้หรือไม่เพราะมันเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับบริษัทเเต่ละแห่ง
3.ลูกจ้างจะได้รับข้อผิดพลาดยังไงหากไม่ต้องการหักเงินสะสม?
ถ้าลูกจ้างไม่ต้องการที่จะรับข้อผิดพลาดจากการหักเงินสะสม มันจะแนะนำให้งดการทำงานในบริษัท เพราะการหักเงินสะสมหมายความว่าคุณควรรู้สึกอุดมสมบูรณ์พอดีโดยไม่ต้องจ่ายเงินเองอีกต่อไป
4.การหักเงินสะสมและสมทบเงินมีอะไรที่ไม่เหมือนกัน?
การหักเงินสะสมเป็นการได้รับเงินตอบแทนที่นำไปเก็บไว้ ในขณะที่การสมทบเงินเป็นการนายจ้างจ่ายเงินเพิ่มเติมกับลูกจ้าง
5.ถ้าฉันต้องการหักเงินสะสมและสมทบเงินฉันจะต้องทำอย่างไร?
คุณสามารถขึ้นต่อสายหรือสอบถามคณะประกันเงินเดือนหรือผู้จัดการกับบัญชีของคุณเพื่อหักเงินสะสมและสมทบเงินส่วนเกินได้สะดวกดียิ่งขึ้นที่สุดพร้อมทั้งยังได้รับคำแนะนำคำชี้แจงจากคนที่คุณเชื่อถือด้วยเช่นกัน
6.ฉันสามารถสมทบเงินได้หลายครั้งในปีเดียวกันได้หรือไม่?
ใช่! ถ้าบริษัทของคุณมีการสมทบเงินสม่ำเสมอคุณสามารถสมทบเข้ากับบัญชีของคุณได้มากกว่าหนึ่งครั้งในปีเดียวกัน
7.หากฉันออกจากบริษัทก่อนกำหนด ฉันจะได้รับเงินที่เก็บไว้ได้ไหม?
ขึ้นอยู่กับข้อตกลงที่คุณทำกับบริษัท เป็นไปได้ว่าคุณสามารถเตรียมตัวเต็มรูปแบบและตรวจสอบข้อตกลงของคุณกับบริษัทและดูว่ามีจุดเลือดชิ้นใดที่ใกล้หมดอายุก่อนถึงการหมดสัญญา คุณอาจต้องพักการดำเนินการเพื่อทำให้เงินที่เก็บไว้มีความสมบูรณ์และรอบคอบจนกระทั่งฉันประสบความสำเร็จทั้งหมด