ตั้งชื่อร้านขายของ: ควรใช้หลักการอะไรบ้าง?

การตั้งชื่อร้านเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เนื่องจากชื่อร้านจะเป็นตัวแทนของตัวเราและสินค้าที่เราขาย ชื่อร้านช่วยให้ลูกค้าติดไว้ในหัวและจำได้ง่าย ทำให้เป็นตัวกลางการติดต่อระหว่างธุรกิจกับลูกค้า ในบทความนี้จะกล่าวถึงหลักการในการตั้งชื่อร้านขายของ ทั้งปัจจัยที่ควรพิจารณาและข้อควรระวัง

หลักการในการตั้งชื่อร้าน

1. สื่อสารสิ่งที่ร้านขายได้อย่างชัดเจน

ชื่อร้านควรสื่อให้ลูกค้าเข้าใจง่ายว่าร้านขายอะไร และควรตอบคำถามว่า ลูกค้าสามารถหาสินค้า/บริการที่ร้านจำหน่ายได้จากชื่อร้านเลยหรือไม่

2. สร้างความน่าจดจำ

ใช้ชื่อที่ไม่ซ้ำซ้อนกับร้านค้าอื่น และยังเน้นความสะดวกสบายในการออกเสียงและจำชื่อร้าน เพื่อให้ลูกค้าจดจำได้ง่าย

3. ไม่เกิน 3 คำ

ชื่อร้านควรสั้นและกระชับด้วยสัมผัสที่น่าจดจำ ลูกค้าจะจำสิ่งเดียวที่เห็นคือชื่อร้าน ไม่ควรใช้ชื่อยาวๆ ที่ยากในการออกเสียงหรือสะกด

4. ลองใช้เทคนิคการตั้งชื่อ

ใช้รูปภาพหรือคำนวณจากเทคนิคต่างๆ เช่น การใช้คำให้เกี่ยวข้องกับสินค้า พจนานุกรมคำศัพท์ ภาษาต่างๆ เป็นต้น

ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนตั้งชื่อร้าน

1. กลุ่มลูกค้าไหนที่ต้องการเข้ามาใช้บริการหรือสินค้าของร้านของเรา

ควรพิจารณารูปแบบของกลุ่มลูกค้า เช่น วัยเรียน สาวสวย ผู้สูงอายุ ซึ่งอาจมีการตั้งชื่อร้านแตกต่างกันไป เพื่อให้เหมาะสมและมีความชัดเจนต่อกลุ่มลูกค้า

2. สินค้าหรือบริการของร้านเป็นอย่างไร

ชื่อร้านควรสื่อให้ลูกค้าเข้าใจได้เลยว่าสินค้าหรือบริการที่ร้านขายเป็นอย่างไร ตัวอย่างเช่น ร้านกาแฟต้องมีชื่อที่เกี่ยวข้องกับกาแฟให้เหมาะสม เช่น Coffee Break เป็นต้น

3. ตลาดและบรรยากาศในพื้นที่

พิจารณาบรรยากาศ และจังหวัดที่ร้านตั้งอยู่ เพื่อให้ชื่อร้านเข้ากับโครงสร้างสังคมและวัฒนธรรมได้ดังนั้นหาชื่อที่ง่ายต่อการออกเสียง และจำง่ายในหัว

4. ไม่ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ขัดแย้งกับปรัชญาของร้าน

ควรตั้งชื่อที่ไม่เกี่ยวโยงกับเรื่องชุมชนหรือปรัชญาที่ขัดแย้ง เพื่อไม่ให้ก่อให้เกิดความไม่พอใจกับลูกค้าที่เดินผ่านร้าน จนกระทั่งไม่กลับมาอีก

ข้อควรระวัง

1. ชื่อร้านควรไม่คล้ายคลึงกับชื่อที่มีสิทธิลิขสิทธิ์

หากชื่อร้านคล้ายกันมากเกินไปจะสร้างความสับสนหรือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ถือกรรมสิทธิ์

2. ไม่ควรใช้คำหยาบหรือน่ารังเกียจ

ควรเลือกใช้คำที่สุภาพ และไม่สร้างความไม่พึงประสงค์กับลูกค้า เพราะว่าชื่อร้านเป็นตัวแทนของธุรกิจและสินค้าของเรา และควรเอาใจใส่ในการตั้งชื่อ

3. ความเหมาะสม

ไม่ควรตั้งชื่อที่ไม่เหมาะสมกับหมู่คณะ เช่น ห้างสรรพสินค้าในห้างหมู่ตึกตั้งชื่อ Porn เป็นต้น

4. การตั้งชื่อซ้ำกับเทรดเนม

ควรตรวจสอบชื่อร้านว่าซ้ำกับเทรดเนมหรือไม่ เมื่อตั้งชื่อที่เหมือนเทรดเนมจะทำให้เกิดความสับสนกับลูกค้า

คำถามที่พบบ่อย

1. การตั้งชื่อร้านควรใช้ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษดีกว่า?

ไม่มีเงื่อนไขที่ถูกต้องหรือผิด สามารถใช้ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษตามสะดวกตัวเองได้ แต่ควรตระหนักว่าคนไทยคิดและออกเสียงคำภาษาไทยไม่เหมือนภาษาอังกฤษ

2. การใช้ชื่อบุคคลหรือแบรนด์ที่มีอยู่ เช่น Louis Vuitton หรือ Chanel จะยุ่งยากหรือเกิดปัญหาได้หรือไม่?

การใช้ชื่อจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง จะเป็นการยกย่องและเชื่อมโยงกับแบรนด์นั้นๆ แต่ทางกฎหมายและการค้าส่งต่างประเทศอาจมีข้อจำกัดเงื่อนไขในการใช้ชื่อแบรนด์ ดังนั้น ควรตรวจสอบกฎหมายก่อนใช้ชื่อแบรนด์นั้น

3. สินค้าหลายประเภทแต่ต้องการตั้งชื่อที่ฝั่งเดียวกัน จะตั้งชื่อแบบไหนดี?

หากมีผลิตภัณฑ์หลายประเภทควรใช้คำที่เกี่ยวข้องกับทุกประเภท พยายามหาคำที่สามารถยึดจับความสำคัญของทุกประเภทได้พร้อมๆ กันเช่น เว็บไซต์สอนการทำอาหารและการแต่งบ้าน คือ “ทำอาหารแต่งบ้าน”

สรุป

การตั้งชื่อร้านให้เหมาะสมและตอบโจทย์ในกลุ่มตลาดต่างๆ จะช่วยให้ธุรกิจของเรามีความเป็นเอกลักษณ์และชัดเจน สร้างความมั่นคงในการตลาดและเก็บลูกค้าได้ง่าย ปฏิบัติตามหลักการที่กล่าวมาในบทความนี้ เพื่อสร้างชื่อธุรกิจและสินค้าของเราอย่างมีความสำคัญและน่าจดจำที่ไม่เคยลืมไป **ขอบคุณที่อ่านบทความนี้**

Trả lời

Email của bạn sẽ không được hiển thị công khai. Các trường bắt buộc được đánh dấu *

Back to top button